หลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินคำว่าที่นอน ท็อปเปอร์ (Topper) กันมาแล้วนะครับ แต่ดูเหมือนว่านี้จะเป็นความเข้าใจผิดอย่างมากเลยนะครับ เพราะว่า ท็อปเปอร์ (Topper) นั้นม่ใช่ที่นอนนะครับ เด่ยวเราจะไปดูกันว่าท็อปเปอร์ (Topper) นั้นมีข้อดีอะไรและทำไมถึงเข้าใจผิดว่าเป็นที่นอน

ท็อปเปอร์ (Topper) ไม่ใช่ที่นอน

            ขอแก้ไขความเข้าใจผิดก่อนนะครับ ท็อปเปอร์ (Topper) ไม่ใช่ที่นอนอย่างที่เราคิดนะครับ เพราะด้วยน้ำหนักที่เบา และ วัสดุที่นำมานั้นเหมาะแก่การนอนก็จริง แต่ต้องนอน โดยการเอาท็อปเปอร์ (Topper) ไว้บนที่นอน ไม่ใช่ใช้ ท็อปเปอร์ (Topper) เป็นที่นอนเลย เพราะว่า ท็อปเปอร์ (Topper)นั้นไม่ได้เหมาะกับการนอนอย่างเดียว เพราะจไม่รองรับสรีระของร่างกายคนเราทำให้นอนไปแล้วไม่สบายตัว ปวดเมื่อตามตัวได้  ดังนั้นหากจะนอน ท็อปเปอร์ (Topper) นั้นขอให้เป็นการนอนระยะสั้นดีกว่า

ข้อดีของ ท็อปเปอร์ (Topper)

                หลังจากที่แก้ไขความเข้าใจผิดกันแล้ว  เรามาดูกันดีกว่าท็อปเปอร์ (Topper)นั้นจะมีข้อดีอะไรกันบ้าง ? ลองมาดูก็ได้เลยครับ

            เสริมเตียงนอน : ท็อปเปอร์ (Topper) นั้นมีหลายความสูงให้เราได้เลือกกันเราสามารถเลือกได้ว่าเราจะเอาสูงกว่าที่นอนขนาดไหน สำหรับคนนอนชอบสูงอย่างคนเขียนการใส่ไว้สัก 2-3ชั้นนี้กำลังพอดีเลย

                ช่วยเพิ่มความนุ่มในการนอน : อย่างที่บอกไปด้านบนว่า ท็อปเปอร์ (Topper) ไม่ได้เป้นที่นอนแต่เป็นตัวช่วยเพิ่มความนุ่มในการนอน เพราะวัสดุที่นำมาผลิตส่วนมากจะเป็น ขนห่าน หรือไม่ก็ ขนเป็ด อยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงนุ่ม  และนี้เป็นสาเหตุหลัก ๆ ของการนำท็อปเปอร์ (Topper) มาเป็นที่นอนอีกด้วย

                ป้องกันความชื้นลงที่นอน : อันนี้ขอนุญาติพูดถึงเด็ก ๆ นะครับ เพราะถ้าหากว่าที่ห้องมีเด็กด้วยละก็โอกาสที่จะฉี่รดที่นอนก้มี ท็อปเปอร์ (Topper) จะช่วยสกัดความชื้นนั้นไว้ ทำให้ความชื้นไม่ไหลลงที่นอน และ ยังช่วยยืดอายุที่นอนอีกด้วยนะครับ

                สำหรับบทความนี้ทุกคนคงรู้จักกับ ท็อปเปอร์ (Topper) มากขึ้นแล้วใช่ไหมครับ ? และคงเข้าใจแล้วว่า ท็อปเปอร์ (Topper) ไม่ใช่ที่นอน แต่เป็นตัวช่วยที่ทำทำให้ที่นอนหลับสบายขึ้น ซึ่งหากใครชอบนอนสูง ๆท็อปเปอร์ (Topper) คือทางออกที่ดีแน่นอนครับ อยากได้สูงขนาดไหนสามารถเอาท็อปเปอร์ (Topper) เสริมไปได้เลยครับ